ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งของอุตสาหกรรมการผลิตสุกรในปัจจุบัน คือ ภาวะราคาแกว่งตัวอย่างรุนแรงของสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม เช่น ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ปี 2554 มีค่าต่างของราคาต่ำสุดและสูงสุดของสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มถึงกิโลกรัมละ 30 บาท ทำให้เกษตรกรบางรายขาดทุน ซึ่งคล้ายกับการขึ้นลงของดัชนีตลาดหุ้น จึงมีคำถามต่อมาว่าหลังจากนี้ไปเสถียรภาพของราคาสุกรจะเป็นอย่างไรในมุมมองของผู้เขียนมีความเห็นว่า สุกรมีชีวิตเป็นสินค้าที่ เรียกว่า สินค้า Commodity ซึ่งจะมีความผันแปรทางราคารุนแรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานของตลาด ซึ่งอาจมีทั้งความต้องการที่แท้จริง, การอุปโลกและขึ้นอยู่กับการเข้าตลาดของผู้ซื้อและผู้ขายรายใหญ่ ดังนั้นเราจะอยู่รอดได้อย่างใรภาวะที่ตลาดมีผลกระทบอย่างรุนแรง
โดยข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งของการเป็นผู้ผลิต คือ ต้องทำอย่างไรให้ต้นทุนการผลิตต่ำที่สุดและมีความคงที่ เพื่อสามารถสู้กับภาวะราคาขายปลายทาง ซึ่งมีความผันแปรสูง ทำให้ผู้ผลิตยังคงความสามารถในการแข่งขัน แต่การผลิตสุกรต่างจากการผลิตในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพราะสุกรเป็นสิ่งมีชีวิต ทำให้เกิดปัญหาเรื่องความคงที่ และต้นทุนของการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความขัดแย้งกันเพราะ ความหมายเชิงอุตสาหกรรมอื่น การทำให้ต้นทุนต่ำสุด คือ การซื้อปัจจัยการผลิตให้ได้ราคาต่ำที่สุดและมีปริมาณคงที่ จะสามารถทำให้ต้นทุนต่ำสุดและคงที่ได้
แต่ในทางกลับกันในการผลิตสุกรหากใช้ปัจจัยการผลิตที่มีราคาต่ำ อาจจะส่งผลให้เกิดความเสียหาย จากปัญหาเกี่ยวกับโรคและการจัดการ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนมีการผันแปรสูง ทำให้เกิดความเสี่ยงเมื่อขายสุกรราคาต่ำกว่าทุน ช่วงที่ผลิตสุกรได้ในจำนวนมาก และในทางตรงกันข้าม เมื่อขายสุกรที่ได้ราคาสูงกว่าทุนในช่วงที่ผลิตสุกรได้น้อย ดังนั้นในมุมมองของผู้เขียน การผลิตสุกร ความหมายของคำที่ว่าการได้ต้นทุนต่ำสุด น่าจะให้น้ำหนักกับการควบคุมปัจจัยการผลิตให้คงที่ มากกว่าการใช้ปัจจัยการผลิตในราคาต่ำที่สุด ทางผู้เขียนจึงขอนำเสนอมุมมองเชิง HACCP ในการควบคุมจุดวิกฤตในการผลิตสุกร เพื่อประสิทธิภาพที่คงที่และต้นทุนที่แข่งขันในตลาดได้ โดยนำเสนอเฉพาะปัจจัยด้านของอาหารและการจัดการ เพื่อลดปัญหาการสูญเสียของสุกร เนื่องจากโรคแทรกซ้อนที่มาจากการจัดการและการให้อาหารผิด