การลงทุนทำฟาร์มเลี้ยงสุกรให้ได้กำไร

การเลี้ยงสัตว์เพื่อธุรกิจการค้าแบบเต็มรูปแบบ คือเลี้ยงตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนจบขั้นตอนสุดท้ายในที่เดียว ซึ่งการเลี้ยงแบบนี้ก็ต้องเริ่มตั้งแต่การเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์เมื่อกำเนิดลูกสุกรออกมาก็นำเลี้ยงขุนต่อเพื่อให้ได้ขนาดน้ำหนักที่พร้อมส่งตลาดต่อไป การเลี้ยงแบบครบวงจรนี้ก็มีข้อดีสำหรับผู้เลี้ยงคือ พึ่งพาตนเองทุกอย่างโดยไม่มีปัญหาเดือดร้อนที่ต้องดิ้นรนหาลูกสุกรจากฟาร์มอื่นๆเข้ามาเลี้ยงขุนต่อ ทั้งยังมั่นใจได้ว่าลูกสุกรที่ผลิ้ตเองภายในฟาร์มนั้นมีความปลอดภัยจากโรคอย่างแท้จริง ส่วนข้อเสียของการเลี้ยงระบบนี้คือ ค่าใช้จ่ายสูงและมีความยุ่งยากสลับซับซ้อนค่อนข้างมากในการดูแลและดำเนินการต่างๆ ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องวางแผนการดำเนินการหรือระบบการบริหารงานต่างๆให้ดี ถูกต้อง ตามขั้นตอน และปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง

การเลี้ยงสุกรก็เหมือนกับธุรกิจประเภทอื่นคือ มีจุดมุ่งหมายที่จะทำการผลิตด้วยต้นทุนต่ำที่สุดเพื่อให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น แต่บางครั้งผู้เลี้ยงสุกรยังไม่เข้าใจถึงวิธีการที่จะคิดต้นทุนการผลิตสุกรโดยมีรายการค่าใช้จ่ายที่สำคัญประกอบกันหลายอย่าง มีทั้งค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินสดและค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด แต่ก็สามารถประเมินเป็นตัวเงินได้ ดังนั้นบางครั้งผู้เลี้ยงสุกรคิดว่าธุรกิจของตนเองมีกำไร แต่แท้ที่จริงกำไรนั้นอาจเป็นเพียงผลตอบแทนที่เป็นค่าแรงงานของผู้เลี้ยงเองเท่านั้น หรืออาจจะเป็นการขาดทุนก็ได้เมื่อนำรายได้มาหักลบกับต้นทุนการผลิตทั้งหมด ทั้งนี้เพราะบางครั้งผู้เลี้ยงจะมองข้ามค่าแรงงานของตนเอง ค่าโรงเรือน คอก และอุปกรณ์ที่ได้สร้างขึ้นมาก่อน จึงทำให้ต้นทุนที่ผู้เลี้ยงประเมินขึ้นมาต่ำกว่าความเป็นจริง

ปัจจุบันเกษตรกรสามารถเลี้ยงสุกรได้ทั้งแบบเป็นฟาร์มขนาดเล็ก,ฟาร์มขนาดใหญ่ เนื่องด้วยการเลี้ยงสุกรนั้นใช้พื้นที่ไม่มากแถมยังมีการเลี้ยงที่ง่ายและไม่สับซ้อนจนเกินไป การเลี้ยงหมูก้าวหน้ากว่าแต่ก่อนมาก การเลี้ยงดูตลอดจนการปรับปรุงพันธุ์มีการศึกษาและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แต่เดิมหมูให้ลูกได้ปีละหนึ่งครั้ง ลูกที่ให้แต่ละครั้งก็ไม่แน่นอน บางครั้งก็น้อย บางครั้งก็มาก ครั้งใดที่ให้ลูกมากอัตราการตายของลูกก็จะสูง ลูกที่คลอดออกมาแล้วต้องใช้เวลาเลี้ยงนานนับปี จึงส่งขายได้ ส่วนปัจจุบันหมูสามารถให้ลูกได้ถึง ๕ ครอกใน ระยะเวลา ๒ ปี แต่ละครอกมีลูกหมูหลายตัว อัตราการเลี้ยงให้อยู่รอดก็สูง ลูกหมูหลังคลอดใช้ระยะเวลาเลี้ยงไปจนถึงน้ำหนักส่งตลาดเพียง ๕ เดือนกว่าเท่านั้น

เนื่องจากสุกรนั้นสามารถให้ผลิตภัณฑ์เนื้อในหลายรูปแบบ นับตั้งแต่เนื้อสุกร เนื้อสามชั้น ( เบคอน ) เนื้อสะโพก ( แฮม ) เครื่องใน จนกระทั่งหนังสุกร เกือบจะกล่าวได้ว่าไม่มีส่วนใดในร่างกายสุกรสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ระบบการผลิตสุกรก็จะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของการผลิตสุกรก็จะเป็นการขุนสุกร หรือมีการผลิตลูกสุกรขายเพื่อนำไปขุนหรือบางฟาร์มก็อาจจะทำการเลี้ยงสุกรพันธุ์เพื่อผลิตพ่อแม่ขาย บางฟาร์มก็อาจจะทำหมดทุกวัตถุประสงค์ทั้งผลิตพ่อแม่พันธุ์ ผลิตลูกสุกรและทำการขุนสุกรไปพร้อมๆกัน